HOME

25551117

Detox คืออะไร ทำไมต้อง Detox


Detox คืออะไร

การล้างพิษ (Detox) ย่อมาจาก Detoxification คือ การกำจัดท็อกซินออกจากร่างกาย

ท็อกซิน คือ พิษ(สารพิษ) ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกายเราซึ่งเกิดได้หลายวิธี ทั้งเกิดจากการกินที่ผิด กับเกิดจากระบบต่าง ๆ ในร่างกายของเราบกพร่อง หรือแม้แต่การเกิดความเครียดก็ก่อให้เกิดท็อกซินได้ พูดง่าย ๆ การกินและการปฏิบัติตัวผิด ๆ ในชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดท็อกซินในตัวเรา

ดีท็อกซ์ คือ การนำเอาสารพิษออกจากร่างกายของเราให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ตกค้างอยู่ในร่างกายจนกลายเป็นพิษเป็นภัยต่อสุขภาพ เมื่อคนเราได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้าไปนั้น กลไกต่าง ๆ ในร่างกายจะทำหน้าที่ขจัดออกมา แต่หากได้รับเป็นจำนวนมากจนเกินไป และสะสมมาเป็นเวลานาน ระบบก็ไม่สามารถที่จะกำจัดได้หมด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคนเรารับประทานอาหารเข้าไป เกิดการย่อยสลาย ทำให้เกิดคราบตกค้างเกาะอยู่ตามผนังลำไส้ หมักหมมอยู่ทุกวี่ทุกวัน จนกลายเป็นกากสารพิษ ปิดกั้นไม่ให้ร่างกายเรารับสารอาหารได้เต็มที่ และลำไส้เราต้องดูดรับพิษร้ายเหล่านี้กลับเข้าสู่ระบบไหลเวียนของโลหิตเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากได้รับเป็นจำนวนมากจนเกินไป และสะสมมาเป็นเวลานาน ระบบก็ไม่สามารถที่จะกำจัดได้หมด

ดังนั้นการขจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกายก็เหมือนการฟอกชำระล้างระบบต่างๆ โดยเฉพาะระบบการย่อยดูดซึมอาหารและระบบไหลเวียนโลหิตให้พ้นจากสภาวะเป็นพิษ

ทำไมต้อง Detox

การล้างลำไส้ (DETOX) จะช่วยทำความสะอาดและขจัดสิ่งสกปรกของเสีย กาก อาหาร รวมทั้งสารพิษที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ให้หมดไป เนื่องจากของเสียเหล่านี้ มักถูกขับถ่ายออกได้ไม่หมด จึงตกค้างอยู่ในลำไส้ บางครั้งจะเกาะติดอยู่ตามผนัง ของลำไส้เป็นตะกรัน เป็นอุจจาระ เนื้อเยื่อของเซลล์ที่ตาย พยาธิและน้ำเมือกที่ถูกสะสมไว้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลร้ายต่อร่างกายจนทำให้เกิดอาการต่างๆ ของโรค เช่น

- ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายยาก ถ่ายไม่ออก
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอ และผายลมบ่อยๆ
- ปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นประจำ
- ปวดศีรษะ คลื่นเหียน อาเจียน เวียนศีรษะ และมีไข้ต่ำๆ ตลอดเวลา
- เหนื่อยง่าย ปากเหม็น ปากเปื่อย มีกลิ่นตัวแรง
- เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง มีผื่นคันขึ้นตามตัว เป็นแผล และเป็นฝีบ่อยๆ
- มีอาการหอบหืด ภูมิแพ้ เป็นลมพิษได้ง่าย
- ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อและกระดูก ตลอดจนรูมาตอยด์
- โรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ ต่อมน้ำเหลือง
- ริดสีดวงทวารภายนอก หรือภายใน เป็นต้น

ดังนั้น ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการดังกล่าวนี้ จึงควรได้รับการล้างลำไส้ เพื่อขจัดของเสียและสารพิษที่คั่งค้างออกจากร่างกาย ทั้งยังสามารถลดความเสี่ยงของโรคด้วย

ที่มา
การอบรมของ บริษัท ยูนิซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง(ไทยแลนด์)
ประโยชน์ของการ Detox

1. ช่วยทำความสะอาดลำไส้ อุจจาระ แบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย และสารพิษต่างๆจะถูกชะล้างออกไป ลดการสะสมสารพิษเหล่านี้ เมื่อสารพิษเหล่านี้ถูกกำจัดออกไปลำไส้จะ สามารถทำงานได้ตามปกติ

2. เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลำไส้ ของเสียที่ตกค้างมีผลทำให้ลำไส้อ่อนแอลง และทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ การล้างลำไส้จึงเป็นการช่วยส่งเสริม กล้ามเนื้อลำไส้ให้ทำงานได้มากขึ้น โดยปกติลำไส้มีหน้าที่กำจัดของเสียก็อาจเป็นไปโดยไม่สมบูรณ์ กล้ามเนื้อลำไส้ที่แข็งแรงและทำงานได้ อย่างเป็นจังหวะจะช่วยทำให้การผลักดันของเสีย เช่น กากอาหารและ อุจจาระออกจากลำไส้ได้เร็วขึ้น และไม่เกิดสารตกค้างจนกลายเป็นพิษ

3. ทำให้ลำไส้มีขนาดเป็นปกติ เมื่อลำไส้ทำงานอย่างผิดปกติ จะส่งผลให้โครงสร้างและขนาดลำไส้เปลี่ยนไป ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา การสวนล้างลำไส้ ช่วยให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนตัว ช่วยลด อาการบวมหรือโป่งพองของลำไส้ อันเนื่องมาจากการที่มีของเสียอุดตัน บริเวณนั้น ทำให้ลำไส้มีรูปร่างปกติตามธรรมชาติ ซึ่งการรักษาทางยา ทานอาหารบางอย่างเฉพาะ บางรายท้องเดินระยะหนึ่งแล้วจะมีอาการท้องผูก อุจจาระแข็ง หรือการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ อาจทำให้ลำไส้กลับคืนสู่รูปทรงปกติได้เพียง ระยะสั้นเท่านั้น

4. กระตุ้นจุดตอบสนองของระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งอวัยวะทุก ส่วนจะมีการทำงานเชื่อมต่อกับลำไส้ โดยจุดตอบสนอง การล้างลำไส้เป็นการช่วยกระตุ้นจุดที่ว่านี้ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกาย โดยรวม เช่น ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน ไต ต่อมน้ำเหลืองและการหมุนเวียน ของเลือด เป็นต้น

5. ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำ 60-70% การสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือแร่ ร่างกายโดยรวมจะ สามารถดูดซึมน้ำเหล่านั้นไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ เพื่อให้เซลล์เหล่านั้น ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับละลายและเจือจาง เมือกที่สะสมอยู่ในผนังลำไส้ให้ขับออกได้สะดวกขึ้น

เมื่อแบ่งตามกลุ่มอาการของโรค การ ดีท็อกซ์ สามารถช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ได้ดังนี้
กลุ่มของโรคทางเดินอาหาร
โรคท้องผูก , โรคลำไส้ระคายเคือง, โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ, อาการท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย, อาการมีกลิ่นปากเหม็น, ลิ้นเป็นฝ้า แผลเปื่อยในปาก
กลุ่มของโรคภูมิต้านทาน
โรคภูมิแพ้ , โรคหอบหืด, โรคลมพิษ ผื่นแพ้, ภาวะภูมิต้านทานต่ำ, โรคภูมิต่านทานไวเกินอื่นๆ เช่น รูมาตอยด์ SLE
กลุ่มโรคความเสื่อมของร่างกาย
ผิวพรรณเหี่ยวย่น , โรคข้อเสื่อม
กลุ่มโรคมะเร็ง
กลุ่มโรคทางจิตใจ
โรคเครียด , โรคนอนไม่หลับ, โรคทางกายที่เกิดจากทางใจอื่นๆ

อาการที่เกิดจากสารพิษตกค้างสะสมในร่างกาย

สารพิษตกค้างที่สะสมในร่างกาย หากขับมาไม่หมด จะเป็นบ่อเกิดของอาการเหล่านี้
- อาการปวดศีรษะบ่อย หงุดหงิด
- ปวดเมื่อยหลัง ไหล่ คอ
- มีแผลร้อนในในปากเป็นประจำ
- ดูดซึมสารอาหารจำพวกแป้งมาก และระบบเผาผลาญทำงานน้อย ทำให้ร่างกายอ้วน
- ขับถ่าย และละลายสารพิษไม่ออก จะเกิดสิวเสี้ยนบนใบหน้า และฝ้าดำบนใบหน้า
- อ่อนเพลีย ง่วงนอน สมาธิไม่ดี ความจำเสื่อม
- ประสาทตึงเครียด และร่างกายไม่แข็งแรง เพศสัมพันธ์เสื่อม
- หน้าตาหมองคล้ำ ไม่ขาวสดใส ผิวพรรณหยาบกร้าน
- ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายยาก ถ่ายไม่ออก
- เบื่ออาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอ และผายลมบ่อยๆ
- ปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นประจำ
- ปวดศีรษะ คลื่นเหียน อาเจียน เวียนศีรษะ และมีไข้ต่ำๆ ตลอดเวลา
- เหนื่อยง่าย ปากเหม็น ปากเปื่อย มีกลิ่นตัวแรง
- เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง มีผื่นคันขึ้นตามตัว เป็นแผล และเป็นฝีบ่อยๆ
- มีอาการหอบหืด ภูมิแพ้ เป็นลมพิษได้ง่าย
- ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อและกระดูก ตลอดจนรูมาตอยด์
- โรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ ต่อมน้ำเหลือง
- ริดสีดวงทวารภายนอก หรือภายใน

ดังนั้น ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการดังกล่าวนี้ จึงควรได้รับการล้างลำไส้ เพื่อขจัดของเสียและสารพิษที่คั่งค้างออกจากร่างกาย ทั้งยังสามารถลดความเสี่ยงของโรคด้วย



             เนื่องจากร่างกายต้องการพื้นที่พื้นผิวของลำไส้สำหรับการดูดซึมสารอาหาร ร่างกายจึงต้องแปลงสนามเทนนิสทั้งสนามมาไว้ในลำไส้ พื้นผิวของลำไส้มีมากกว่าพื้นผิวของร่างกายภายนอกถึง ๒๐๐ เท่า

ทางเดินอาหารในร่างกายผู้ใหญ่มีความยาวประมาณ ๙ เมตร ส่วนที่ยาวที่สุดได้แก่ลำไส้เล็ก ซึ่งมีความยาวประมาณ ๗.๕ เมตร (ประมาณ27ฟุต)ลำไส้ใหญ่ยาวประมาณ ๑.๕ เมตร ลำไส้ใหญ่มีขนาดโตกว่าลำไส้เล็กกล่าวคือ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๗ เซนติเมตร ในความเป็นจริงลำไส้ไม่ได้ถูกยึดออกมายาวเท่านี้ เพราะลำไส้ที่มีชีวิตกล้ามเนื้อจะยืดและหดตัวอยู่ตลอดเวลา

ความยาวของลำไส้เล็กเมื่อเทียบกับพื้นที่ของพื้นผิวแล้วยังต่างกันมาก พื้นที่ผิวของลำไล้เล็กมีขนาดกว้างถึง ๒๕๐ ตารางเมตร หรือเท่ากับสนามเทนนิส ๒ สนามรวมกัน ที่ต้องมีพื้นที่ผิวมากมายอย่างนี้ เพราะต้องใช้สำหรับดูดซึมสารอาหารต่างๆไปเลี้ยงร่างกายและการที่มีพื้นที่มากบรรจุอยู่ในที่แคบๆได้ ก็ต้องอาศัยการพับไปพับมา และยังมีส่วนยื่นออกมาคล้ายชั้นวางของมากมาย ในแต่ละชั้นก็มีส่วนยื่นคล้ายนิ้วมือ ที่เรียกว่า วิลไล (villi) ออกมาอีก ทำให้เพิ่มพื้นที่ขึ้นไปได้อีกมาก และในวิลไลก็ยังมีไมโครวิลไล (microvilli) ด้วย เหล่านี้เป็นการเพิ่มพื้นที่ผิวทั้งนั้น

ข้อมูล เพิ่มเติมจาก หมอชาวบ้าน

เนเจอรส์ ที (Nature's T Infusion)


ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การล้างสารพิษในลำไส้ได้อย่างได้ผล 
Nature's T คือชาสมุนไพร Mashmallow ล้างพิษในลำไส้โดยไม่ต้องสวนทวาร รสหวานกลมกล่อม ช่วยคลายเมือกและสิ่งตกค้าง ช่วยในการระบายและย่อยอาหาร ลดคลอเลสโตรอล ลดเซลลูไลท์ แก้อาการท้องผูก ลดการสะสมของกรดยูริคปัญหาการเกิดนิ่ว โรคเก๊าท์และอาการภูมิแพ้ อีกทั้งยังช่วยขจัดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ด้วย
ส่วนประกอบ
- Marshmallow- Peppermint- Honey Suckle- Bearberry- Chamomile- Rosehip
- Orange Peel- Senna leaf- Bucthorn Fogbark
คุณประโยชน์
- ชาสมุนไพรล้างสารพิษในผนังลำไส้ ธรรมชาติบำบัดจากสมุนไพร 9 ชนิด ปลอดสารพิษ
- ช่วยเสริมโปรแกรมการทำ Detoxification ชงดื่มง่าย รสชาติดี แค่ดื่มก่อนนอน ไม่ต้องสวนทวาร
- เสริมการเคลื่อนตัวของลำไส้ ขับเมือกสารพิษตกค้างในระบบย่อยอาหาร
- ช่วยระบาย ทำให้ลำไส้บีบรัดและคลายตัวเคลื่อนสู่ลำไส้ใหญ่
- ช่วยสมานแผล ฝี หนองในลำไส้ ลดการอักเสบ ลดการติดเชื้อในทางเดินอาหาร เสริมระบบย่อยอาหารให้สมบูรณ์
- ลดการสะสมของกรดยูริค ปัญหาเรื่องนิ่ว โรคเก๊าท์ อาการภูมิแพ้
- ลดเซลลูไลท์ เสริมโปรแกรมควบคุมน้ำหนัก
วิธีรับประทาน
แช่ชา 1 ถุงในน้ำร้อน 250 มิลลิลิตร นาน 2-5 นาที แล้วดื่มก่อนนอนหรือหลังอาหารเย็น ควรดื่มติดต่อกัน 14 วัน หลังจากนั้น ควรดื่มสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น